พลังงาน
About: thailand
Recent Posts by thailand
ส่อง 15 เทรนด์การลงทุนที่น่าสนใจสำหรับปี 2024
ปี 2023 ถือเป็นปีที่ท้าทายเศรษฐกิจและตลาดการลงทุนเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเงินเฟ้อ วิกฤตในตลาดการเงินการลงทุน การเติบโตอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยี AI ที่สามารถแทนที่การทำงานของมนุษย์ รวมไปถึงสงครามต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องส่งผลราคาสินค้า ราคาน้ำมันโลกขึ้นตามๆ กัน สำหรับทิศทางการลงทุนในปี 2024 นั้นนวัตกรรมทางเทคโนโลยีจะเข้ามาเปลี่ยนแปลโลกมากยิ่งขึ้น STARTRADER สรุปแนวโน้มการเงินที่สำคัญให้เทรดเดอร์ได้ศึกษาไว้เป็นแนวทางการลงทุนในปีหน้า 1.การย้ายจากกองทุนรวมไปยังกองทุนที่ซื้อขายบนตลาดหลักทรัพย์ (ETF) รายได้เป็นหัวข้อที่สำคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่งการลงทุนในตราสารหนี้ที่เชื่อมโยงกับเงินเฟ้อ ตราสารหนี้ระยะสั้นและระยะกลางถูกให้ความสำคัญมากกว่าตราสารหนี้ระยะยาวเนื่องจากความผันผวนและเงินเฟ้อที่ไม่แน่นอน คนส่วนใหญ่จะเริ่มมองการลงทุนใน ETF แบบ Passive ที่เน้นทางดัชนี อีกหนึ่งตัวที่ลงทุนคือ ETF แบบ Active ซึ่งให้ผู้บริโภคเข้าถึงสิ่งดีที่สุดจากทุกๆ ด้าน 2.เน้นการลงทุนใน ESG (Environmental, Social, and Governance) และการศึกษาทางการเงินอย่างต่อเนื่อง ในอนาคตผู้คนจะให้ความสำคัญเกี่ยวกับ ESG มาขึ้น หลากหลายบริษัทก็เริ่มมีนโยบายเกี่ยวสิ่งแวดล้อมและสังคมกันมากขึ้น การศึกษาในโลกของการเงินอยู่เสมอ วางแผนเป้าหมายและผลตอบแทนให้ชัดเจน 3.นวัตกรรมทางการแพทย์และโลกาภิวัตน์ ทิศทางการลงทุนกำลังเห็นยุคใหม่ของนวัตกรรมทางการแพทย์โดยเฉพาะสารสนเทศวิทยาและเทคโนโลยีชีวภาพ ซึ่งมีการขับเคลื่อนมาจากการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างประชากร อีกทั้งการเปลี่ยนแปลงการวางโครงสร้างของห่วงโซ่อุปทานก็สร้างโอกาสให้กับตลาดที่เกิดใหม่ 4.ทุกการตัดสินใจควรศึกษาข้อมูลอย่างถูกต้อง ศึกษาในข้อมูลในสิ่งที่คิดว่าจะมีการเติบโตอย่างมั่นคง เช่นกลุ่มพลังงานทดแทนและเทคโนโลยีที่สะอาด การลงทุนในแหล่งพลังงานทดแทนและเทคโนโลยีที่สะอาดเป็นกลุ่มที่มีการเติบโตขึ้นเรื่อย ๆContinue Reading
เทรด STP vs ECN : แตกต่างกันอย่างไร เทรดแบบไหนเหมาะกับคุณ
ECN (Electronic Communication Network) และ STP (Straight Through Processing) เป็นรูปแบบของการเทรดในตลาดการเงินที่มีวิธีการทำงานที่แตกต่างกันแต่มีเป้าหมายที่เหมือนกันคือการให้ผู้เทรดสามารถเข้าถึงตลาดการเงินโดยตรงโดยไม่ผ่านผู้กลาง ซึ่งช่วยให้มีความโปร่งใสและประสิทธิภาพในการเทรดมากขึ้นสำหรับผู้ใช้งาน การเทรด STP คือ การเทรด STP (Straight Through Processing) เป็นรูปแบบหนึ่งของการซื้อขายในตลาดการเงินที่ใช้เทคโนโลยีในการประมวลผลคำสั่งซื้อและการทำธุรกรรมโดยที่ไม่มีการมีคนกลางระหว่างในกระบวนการ การเทรดแบบ STP มุ่งเน้นให้การทำธุรกรรมเกิดขึ้นโดยเร็วและโปร่งใส ซึ่งผู้เทรดสามารถทำธุรกรรมได้โดยตรงกับตลาดหรือผู้ให้ liquidity โดยไม่ผ่านโบรกเกอร์หรือตัวกลางใดๆ ทำให้มีความยืดหยุ่นและความรวดเร็วในการทำธุรกรรมมากขึ้น จุดเด่นที่สำคัญของ STP 1.การทำธุรกรรมในบัญชี STP มักจะเป็นอย่างรวดเร็ว ด้วยกระบวนการทำธุรกรรมที่ไม่มีคนกลาง ทำให้ผู้เทรดสามารถทำธุรกรรมได้ทันทีโดยไม่ต้องรอคอยจากตัวกลางใดๆ 2.ผู้ใช้บัญชี STP สามารถดูราคาซื้อขายจากตลาดจริง และทำธุรกรรมโดยตรงกับผู้ให้ liquidity ในตลาดได้โดยตรง ซึ่งช่วยเพิ่มความโปร่งใสและความเชื่อถือในการทำธุรกรรม 3.บัญชี STP มักจะมี spread ที่ต่ำ ซึ่งช่วยให้ผู้เทรดได้รับราคาที่ดีกว่าและค่าธรรมเนียมที่ต่ำกว่าในการทำธุรกรรม 4. ผู้เทรดสามารถเลือกทำธุรกรรมในรูปแบบที่ต่างกันได้ เช่น การซื้อขายทันที (instant execution) หรือการทำธุรกรรมในรูปแบบของการต่อรอง (negotiation)Continue Reading
อยากลงทุนต้องรู้ ! 3 รูปแบบตลาดการเงินที่เทรดเดอร์มือใหม่ควรรู้ ก่อนเริ่มลงทุน
สำหรับบทความนี้ STARTRADER จะพาทุกท่านทำความเข้าใจกับ 3 ตลาดการเงินที่เป็นที่นิยมใน หมู่นักเทรด Forex อย่างตลาดสปอต (Spot Market) ฟิวเจอร์ส (Futures Market) และ CFD (Contract for Difference) แต่ละตลาดมีลักษณะและหลักการซื้อขายที่แตกต่างกันอย่างไร ตลาดสปอต (Spot Market) ตลาดสปอต (Spot Market) คือตลาดที่ซื้อขายทรัพย์สิน (เช่น สินค้า หุ้น หรือสกุลเงิน) ในราคาปัจจุบันที่เรียกว่า “สปอต” โดยการโอนสิทธิ์ทรัพย์สินและชำระเงินในทันทีหรือในช่วงสั้น ๆ หลังจากทำธุรกรรมนั้น ๆ ตลาดสปอตเป็นตลาดที่ตลอดเวลามีการซื้อขาย และราคาขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงของข้อเสนอของซื้อ-ขายในตลาดนั้น ๆ ลักษณะสำคัญและการทำงาน 1.ในตลาดสปอต นักเทรดสามารถทำธุรกรรมทันทีที่ราคาปัจจุบันของทรัพย์สิน ไม่มีการทำธุรกรรมล่วงหน้า 2.ตลาดสปอตมีความยืดหยุ่นสูง นักเทรดสามารถทำธุรกรรมโดยไม่มีข้อจำกัดในปริมาณความต้องการ สามารถทำธุรกรรมทั้งในขนาดเล็กหรือใหญ่ 3.การทำธุรกรรมระหว่างธนาคาร (Interbank Transactions): เปิดให้การทำธุรกรรมระหว่างธนาคาร ทำให้มีปริมาณการซื้อขายที่มาก 4.ตลาดสปอตเปิดทำการตลอด 24 ชั่วโมงตลอด 5Continue Reading
5 สิ่งที่เทรดเดอร์ ต้องระวังในการเทรด Forex !
ตลาด Forex ตลาดที่มีการซื้อและขายสกุลเงินทั่วโลก เหมือนกับตลาดหุ้น เป็นตลาดที่มีปริมาณการซื้อขายสูง สินทรัพย์ฟอเร็กซ์จึงจัดเป็นสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูง ที่มาพร้อมกับความเสี่ยงมากมาย เนื่องจากการซื้อขายฟอเร็กซ์เป็นผลิตภัณฑ์ที่มี Leverage มาเกี่ยวข้อง ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดการสูญเสียขึ้น สำหรับบทความนี้ STARTRADER จะพูดถึงความเสี่ยงส่วนใหญ่ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ระหว่างการเทรด เพื่อให้เทรดเดอร์มือใหม่ระมัดระวัง พร้อมรับมือกับความเสี่ยงเหล่านี้ ! ความเสี่ยงจากเลเวอเรจ ในการซื้อขายฟอเร็กซ์ Leverage จะต้องมีการฝากเงินในการลงทุนขั้นต้นที่เรียกว่า Margin เพื่อเข้าถึงการซื้อขายจำนวนมากในสกุลเงินต่างประเทศ ความผันผวนของราคาอาจส่งผลให้เกิด มาร์จิ้นคอล (Margin call) เป็นสิ่งนักลงทุนจำเป็นต้องจ่ายเงินชดเชยมาร์จิ้นเพิ่มเติม ในช่วงสภาวะตลาดที่ผันผวนสูง การใช้เลเวอเรจที่สูงอาจส่งผลให้เกิดการสูญเสียเกินกว่าเงินที่ลงทุน ความเสี่ยงจากอัตราดอกเบี้ย อัตราดอกเบี้ยส่งผลต่ออัตราแลกเปลี่ยนของประเทศ หากอัตราดอกเบี้ยของประเทศเพิ่มขึ้น สกุลเงินของประเทศนั้นจะแข็งค่าขึ้นเนื่องจากมีการลงทุนไหลเข้าในประเทศนั้น เนื่องจากสกุลเงินที่แข็งค่าขึ้นจะให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า ในทางกลับกัน หากอัตราดอกเบี้ยลดลง สกุลเงินจะอ่อนค่าลงเมื่อนักลงทุนเริ่มถอนการลงทุนของตน อัตราดอกเบี้ยจึงมีผลกระทบโดยตรงต่อราคาของสกุลเงิน ความผันผวนนี้อาจจะสร้างกำไร หรือขาดทุนให้กับเทรดเดอร์ได้ ขึ้นอยู่กับการวางแผนการเทรดของเทรดเดอร์ ความเสี่ยงในการทำธุรกรรม ความเสี่ยงในการทำธุรกรรมคือความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนที่เกี่ยวข้องกับความแตกต่างของเวลาระหว่างการเริ่มสัญญาและเวลาที่ชำระ การซื้อขายฟอเร็กซ์เกิดขึ้นตลอด 24 ชั่วโมงซึ่งอาจส่งผลให้อัตราแลกเปลี่ยนมีการเปลี่ยนแปลงก่อนที่จะทำการตัดสินใจซื้อขาย ด้วยเหตุนี้สกุลเงินจึงสามารถซื้อขายได้ในราคาที่แตกต่างกันในเวลาที่ต่างกันในระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย ยิ่งส่วนต่างของเวลาระหว่างการเข้าทำการซื้อขายและการทำสัญญามีมากขึ้นเท่าใด ความเสี่ยงในการทำธุรกรรมก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น ความแตกต่างของเวลาจะทำให้ความเสี่ยงจากการแลกเปลี่ยนผันผวน บุคคลและองค์กรที่ซื้อขายสกุลเงินต้องเผชิญกับค่าใช้จ่ายในการทำธุรกรรมที่เพิ่มขึ้น ซึ่งอาจเป็นภาระหนักในการลงทุน ความเสี่ยงของคู่สัญญา คู่สัญญาในธุรกรรมทางการเงินคือบริษัทที่จัดหาสินทรัพย์ให้กับนักลงทุนContinue Reading
ความสำคัญของช่วงเวลาการซื้อขายในตลาด Forex
แม้ว่า เทรดเดอร์ สามารถเข้าถึงการซื้อขายในตลาดฟอเร็กซ์ได้ตลอดเวลา แต่เทรดเดอร์หลายท่านก็พบว่า บางช่วงเวลานั้นจะมีการซื้อขายที่คล่องกว่า (Liquidity) และมี Spread ที่ต่ำกว่า แผนการซื้อขายฟอเร็กซ์ส่วนมากก็จะขึ้นอยู่กับเวลาที่จะทำการซื้อขาย เนื่องจากมีผลต่อประสิทธิภาพและความเสี่ยงในการซื้อขาย STARTRADER จะพาทุกท่านมาทำความเข้าใจให้มากขึ้น 1.บ่งบอกสภาพคล่องของตลาด (Liquidity) ช่วงเวลาการซื้อขายที่มีการซื้อขายมากๆ จะมีสภาพคล่องสูงขึ้น ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถซื้อและขายสกุลเงินได้ง่ายขึ้น การซื้อขายในตลาดมีสภาพคล่องสูงอาจจะมีการกระจายราคาต่ำ ทำให้การซื้อขายเป็นไปอย่างราบรื่น และผู้เทรดมีโอกาสแลกเปลี่ยนมากที่สุดในตลาดนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้ที่ใช้กลยุทธ์การซื้อขายระยะสั้น เช่น การเทรดแบบ Scalping หรือ Day Trading 2.ประสิทธิภาพในการซื้อขาย การเลือกซื้อขายในช่วงเวลาที่มีสภาพคล่องสูง จะมีโอกาสที่คุณจะสามารถเข้าและออกจากตลาดได้ดีกว่า นี้สามารถช่วยให้คุณมีโอกาสที่ดีกว่าในการทำกำไรในการซื้อขาย เวลาซื้อขายฟอเร็กซ์ที่ให้โอกาสมากที่สุดคือเวลาที่ตลาดฟอเร็กซ์หลายแห่งเปิดอยู่ สามารถดูเวลาเหล่านี้ได้ที่นี่ ข้อควรพิจารณาที่สำคัญอีกประการหนึ่งเกี่ยวกับเวลาการซื้อขาย คือช่วงการซื้อขายของตลาดหลักช่วงใดที่จะให้โอกาสมากที่สุดในการทำการซื้อขายกับคู่สกุลเงินอื่น สภาวะของตลาดสำหรับคู่สกุลเงินจะมีเวลาที่แตกต่างกัน ดังนั้นแล้วเวลาที่คุณจะซื้อขายอาจเลือกจากคู่สกุลเงินที่คุณต้องจะเทรด 3.ความเสี่ยง (Risk) ในช่วงเวลาที่มีสภาพคล่องต่ำ การซื้อขายอาจมีความเสี่ยงสูงขึ้น เนื่องจากมีการกระจายราคามากขึ้น นี่อาจทำให้คุณเสี่ยงต่อการขาดทุนในการซื้อขาย การเลือกซื้อขายในช่วงเวลาที่มีสภาพคล่องสามารถช่วยลดความเสี่ยง เทรดเดอร์ฟอเร็กซ์จำนวนมาก โดยเฉพาะเทรดเดอร์ที่ใช้เทคนิคต่าง ๆ เทรด มักจะหลีกเลี่ยงช่วงเวลาการซื้อขายที่มีความเสี่ยงสูง เช่นในตลาดที่มีการเคลื่อนไหวไม่ชัดเจน สภาพคล่องน้อย ได้แก่ ช่วงเวลาของข่าวสำคัญหรือการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจ วันศุกร์หรือวันอาทิตย์Continue Reading
